
แจกเคล็ดลับการเปิดรีสอร์ตให้สำเร็จต้องทำอย่างไรบ้าง ?
หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์โควิด-19 การท่องเที่ยวของประเทศไทยก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลาย ๆ สถานที่ยังคงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างต้องการแวะไปเยือน จึงกลายเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่พักอย่างรีสอร์ตหรือว่าโรงแรมบูทีค
อย่างไรก็ตาม การเปิดรีสอร์ตหรือโรงแรมบูทีคในยุคนี้ ยังคงมีความท้าทาย เพราะมีทั้งคู่แข่งรายเก่าและรายใหม่จำนวนมาก ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งเรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้แก่ธุรกิจมาแนะนำกัน
3 สเตปในการเปิดรีสอร์ตหรือโรงแรมบูทีคให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไรบ้าง ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่า หากต้องการเปิดรีสอร์ตหรือโรงแรมบูทีคให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไรบ้าง คงต้องบอกว่า ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินความสามารถ เพียงต้องอาศัยการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยแบ่งออกเป็น 3 สเตปสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมาย ดังนี้
สเตปที่ 1 เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
การเริ่มต้นธุรกิจรีสอร์ตนั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ และเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ดังนี้
สำรวจความพร้อมก่อนเริ่มเปิดรีสอร์ต
● ด้านเงินลงทุน
ธุรกิจรีสอร์ตต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ทั้งค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ และเงินทุนหมุนเวียน ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรประเมินเงินทุนทั้งหมด เพื่อเตรียมเงินไว้ให้เพียงพอ รวมถึงต้องมีเงินสำรองไว้อย่างน้อย 30% สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด
● ที่ดิน
การเลือกที่ดินถือเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ของการทำธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต โดยควรตรวจสอบว่าที่ดินที่เราต้องการสามารถก่อสร้างรีสอร์ตได้ตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงไม่มีข้อจำกัดด้านผังเมือง และยังต้องเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานได้อย่างครอบคลุม เช่น ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า และการจัดการขยะ ได้อย่างสะดวก
● ทำเล
ที่ตั้งของหรือสอร์ตหรือโรงแรมบูทีค ควรเป็นจุดที่เดินทางสะดวก มีความสวยงามทางธรรมชาติ หรือใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
กำหนดแนวคิดและจุดขายของรีสอร์ตให้ชัดเจน
การมีแนวคิด (Concept) ที่ชัดเจนจะช่วยให้รีสอร์ตมีเอกลักษณ์และโดดเด่น เช่น รีสอร์ตสไตล์ธรรมชาติ รีสอร์ตแนวมินิมอล หรือรีสอร์ตสำหรับกลุ่มครอบครัว เพื่อวางแผนตกแต่งและการทำตลาดได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
วางแผนธุรกิจรีสอร์ตอย่างเป็นระบบ
จัดทำแผนธุรกิจ (Business Plan) ที่ครอบคลุมทั้งด้านการเงิน การบริหารจัดการ การตลาด และการดำเนินงาน โดยควรมีการคาดการณ์รายได้และรายจ่ายอย่างละเอียด รวมถึงการวางแผนโครงสร้างองค์กร และกำหนดบทบาทหน้าที่ของทีมบริหารอย่างชัดเจน เพื่อเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจ
สเตปที่ 2 ออกแบบและก่อสร้างอย่างถูกต้อง
หลังจากวางแผนเบื้องต้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบและก่อสร้างรีสอร์ต ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบอย่างมาก โดยมีสิ่งที่ต้องดำเนินการ คือ
ออกแบบรีสอร์ตตามแนวคิดที่วางไว้
เมื่อได้แนวคิดรีสอร์ตหรือโรงแรมบูทีคแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการร่วมงานกับสถาปนิกและนักออกแบบที่มีประสบการณ์ เพื่อให้การออกแบบตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย และสอดคล้องกับแนวคิดของรีสอร์ต นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้เข้าพักด้วย
ขอใบอนุญาตโรงแรมขนาดเล็ก
การขอใบอนุญาตโรงแรมขนาดเล็ก โรงแรมบูทีค รวมถึงรีสอร์ต เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีขั้นตอนหลายขั้นตอน ตั้งแต่การขออนุญาตก่อสร้าง การขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรม และการขอใบอนุญาตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ใบอนุญาตจัดตั้งสถานบริการ เป็นต้น ผู้ประกอบการจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง
เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับภูมิประเทศและประหยัดพลังงาน
สิ่งสำคัญประการต่อมา คือการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและภูมิประเทศ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและประหยัดพลังงานในระยะยาว เช่น การใช้วัสดุที่ทนต่อความชื้นในพื้นที่ติดทะเล การออกแบบให้มีการระบายอากาศที่ดี เพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศ หรือการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์
เลือกผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากวัสดุคุณภาพ ยังต้องมองหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ เพื่อช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปตามแผน แต่ควรมีการทำสัญญาที่ชัดเจน พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขและระยะเวลาในการก่อสร้าง รวมถึงการรับประกันผลงาน ที่สำคัญควรมีการติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ

สเตปที่ 3 บริหารจัดการรีสอร์ตอย่างยั่งยืน
การบริหารจัดการรีสอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและยั่งยืน โดยสิ่งที่ต้องดำเนินการ มีดังนี้
วางระบบการจอง การรับลูกค้า และการบริการหลังการเข้าพัก
สิ่งสำคัญในการบริหารงานรีสอร์ตหรือโรงแรมขนาดเล็ก คือการมีระบบบริหารจัดการที่ครบวงจร เพื่อเพิ่มความสะดวกในการดำเนินงาน และสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยระบบที่ควรมี ได้แก่
● ระบบ PMS (Property Management System)
ระบบศูนย์กลางที่เชื่อมต่อข้อมูลการจอง การเข้าพัก การชำระเงิน และข้อมูลลูกค้า เพื่อช่วยให้การบริหารงานรีสอร์ตและโรงแรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด พร้อมกับช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ
● โปรแกรม Front Office
โปรแกรมสำหรับจัดการงานหน้าฟรอนต์ เช่น การเช็กอิน เช็กเอาต์ การจัดสรรห้องพัก และการสื่อสารกับลูกค้าในระหว่างการเข้าพัก
● โปรแกรม Back Office
ระบบสำหรับบริหารงานหลังบ้าน เช่น งานด้านบัญชี การเงิน รายงานการขาย และสต๊อกสินค้า เพื่อสนับสนุนการวางแผนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
● ระบบจัดการช่องทางการจอง (Channel Manager)
ระบบที่ช่วยซิงก์ข้อมูลห้องพักและราคาจากโรงแรมไปยังเว็บไซต์ตัวกลาง เช่น Agoda, Booking.com, Expedia แบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยป้องกันการจองที่ซ้ำซ้อน และเพิ่มโอกาสขายห้องพักได้มากขึ้น
● ระบบรับจองตรง (Internet Booking Engine หรือ IBE)
ระบบที่ติดตั้งบนเว็บไซต์ของโรงแรม ช่วยให้ลูกค้าสามารถจองห้องพักได้โดยตรง ลดต้นทุนค่าคอมมิชชันจาก OTA และสร้างโอกาสในการทำโปรโมชันตรงถึงลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
● ระบบห้องอาหาร (Point of Sales หรือ POS)
ระบบสำหรับจัดการคำสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มในรีสอร์ต รองรับการคิดเงินแบบแยกรายการ เชื่อมต่อกับบัญชีห้องพักลูกค้า และออกใบเสร็จได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่รวมทุกระบบไว้ในที่เดียว จะช่วยให้รีสอร์ตสามารถบริหารงานได้อย่างง่ายดาย ประหยัดเวลา และลดต้นทุนด้านบุคลากรได้อย่างเห็นผล
จ้างพนักงานและฝึกอบรม
พนักงานมีส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจให้แก่ลูกค้า จึงควรคัดเลือกพนักงานที่มีใจรักในงานบริการ รวมถึงฝึกอบรมให้เข้าใจมาตรฐานการให้บริการ ที่มีทั้งทักษะการสื่อสารและความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง เพื่อจะได้ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
การทำตลาดรีสอร์ตยุคใหม่
การทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคดิจิทัล โดยควรมีเว็บไซต์ที่ทันสมัยและใช้งานง่าย รวมถึงใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสร้างการรับรู้และความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมถึงร่วมมือกับบล็อกเกอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ด้านการท่องเที่ยวเพื่อประชาสัมพันธ์รีสอร์ต นอกจากนี้ ยังควรมีการจัดโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้ด้วย
การพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการอยู่เสมอ
ธุรกิจรีสอร์ตจำเป็นต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จึงควรมีการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า และนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงการให้บริการ รวมถึงมีการบำรุงรักษาอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ และต้องไม่ลืมติดตามเทรนด์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมโรงแรมเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
เมื่อเข้าใจกันแล้วว่าการจัดตั้งรีสอร์ตสามารถทำได้อย่างไร ? คงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาซอฟต์แวร์จัดการโรงแรม Kantus Hotel Tech คืออีกหนึ่งทางเลือกของโซลูชันจัดการระบบหน้าบ้านและหลังบ้านของธุรกิจโรงแรม ที่พัฒนาโดยคนไทยเพื่อโรงแรมและรีสอร์ตของคนไทย ทดลองใช้ระบบจริงได้ฟรี 3 เดือน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง พร้อมทีมซัพพอร์ตดูแลตลอด 24 ชม.
ติดต่อสอบถามหรือขอรับคำปรึกษาฟรีได้ที่ เบอร์โทรศัพท์: 022-555-581 หรือ E-Mail: sales@kantushoteltech.com
ข้อมูลอ้างอิง
1.อสังหาพารวย เริ่มต้นธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตอย่างไรให้ออกมาปัง. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 จาก https://www.kasikornbank.com/th/propertyforsale/article/pages/how-to-start-hotel-business.aspx
Leave a Reply