ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม เลือกใช้ระบบโรงแรมที่ทันสมัย

7 นวัตกรรมบริการโรงแรม ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัล

ธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะหลังวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวรับกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวมีความคาดหวังสูงขึ้นต่อประสบการณ์การเข้าพัก และต้องการความสะดวกสบายที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย แต่โรงแรมหลายแห่งยังประสบปัญหาในการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม คุ้มค่า และตอบโจทย์กับการบริการของโรงแรม

5 ประโยชน์สำคัญของนวัตกรรมการบริการโรงแรม

การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริการเข้ามาใช้ในธุรกิจโรงแรม ไม่เพียงช่วยให้โรงแรมสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้ายุคใหม่ได้ดีขึ้น แต่ยังสร้างคุณค่าและประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เช่น

1. ลดต้นทุนการดำเนินงาน

นวัตกรรมการบริการในระบบอัตโนมัติ เช่น ระบบเช็กอินด้วยตนเอง, หุ่นยนต์ทำความสะอาด หรือระบบบัญชีอัตโนมัติ ช่วยลดการพึ่งพาบุคลากรจำนวนมาก และลดความสิ้นเปลืองของทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

2. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ด้วยระบบที่สามารถทำงานได้แบบเรียลไทม์และลดการป้อนข้อมูลด้วยมือ เช่น ระบบจัดการห้องพักอัจฉริยะ และระบบ PMS จึงส่งผลให้การบริการของโรงแรมมีความผิดพลาดน้อยลง และเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนองต่อแขกผู้เข้าพักได้อย่างตรงจุด

3. ยกระดับภาพลักษณ์ของธุรกิจ

โรงแรมที่ใช้นวัตกรรมการบริการทันสมัย เช่น การใช้ระบบจดจำใบหน้า หรือแอปพลิเคชันบริการลูกค้า คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยและความใส่ใจในคุณภาพบริการ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้เข้าพัก

4. สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า

การให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย ผ่านการบริการของโรงแรมที่ทันสมัย เช่น การใช้สมาร์ตโฟนเปิดประตูห้อง หรือการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน มีส่วนช่วยให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ และเพิ่มแนวโน้มอยากกลับมาใช้บริการซ้ำในครั้งหน้า

5. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลได้แม่นยำ

นอกเหนือจากการบริการภายในโรงแรมแล้ว เทคโนโลยีด้านการจัดเก็บข้อมูลก็เป็นสิ่งที่ธุรกิจโรงแรมยุคใหม่ควรให้ความสำคัญ โดยสามารถใช้ระบบอัจฉริยะที่มี AI เข้ามาเป็นผู้ช่วย ที่สามารถบริหารและจัดการข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้า ก่อนนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาด หรือปรับปรุงบริการให้ตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้นในอนาคต

7 นวัตกรรมการบริการของโรงแรมที่จำเป็นในปี 2025

สำหรับโรงแรมที่ต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับตัว พร้อมกับเลือกใช้นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจ ที่ครอบคลุมทั้งงานด้านบริการและการบริหารหน้าบ้านและหลังบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ระบบบริหารจัดการโรงแรม (Property Management System)

PMS เป็นระบบศูนย์กลางที่ช่วยจัดการข้อมูลในทุกแง่มุมของโรงแรม ตั้งแต่การจองห้องพัก การเช็กอิน-เช็กเอาท์ ไปจนถึงการทำบัญชีรายรับรายจ่าย โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบโรงแรมอื่น ๆ ได้แบบครบวงจร ทำให้โรงแรมสามารถจัดการงานทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับโรงแรมทุกขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงเครือโรงแรมขนาดใหญ่

2. นวัตกรรมการระบุตัวตนและความปลอดภัย

การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยภายในโรงแรม เพื่อช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับแขกผู้เข้าพัก เช่น การใช้ AI ตรวจสอบบุคคลที่เข้าพัก การเข้าห้องพักด้วยสมาร์ตโฟน รวมถึงระบบควบคุมการเข้าถึงพื้นที่สำคัญของโรงแรม ทำให้ทั้งแขกและทรัพย์สินของโรงแรมได้รับการดูแลในมาตรฐานที่สูงขึ้น

3. ระบบการจัดการห้องพักอัจฉริยะ

ระบบจัดการห้องพักอัจฉริยะ ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมการบริการที่ถูกนำมาปรับใช้ในอุตสาหกรรมโรงแรมยุคใหม่ เพราะมีฟังก์ชันที่ช่วยให้โรงแรมสามารถจัดการห้องว่างและสถานะห้องพักได้แบบเรียลไทม์ พร้อมกับควบคุมอุณหภูมิ แสงสว่าง และระบบไฟฟ้าภายในห้องโดยอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถแจ้งเตือนพนักงานทำความสะอาดหรือซ่อมบำรุงได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหา

4. นวัตกรรมการบริการลูกค้า

การใช้หุ่นยนต์สำหรับงานด้านบริการ เช่น การส่งของไปยังห้องพัก หรือพนักงานเสมือนในรูปแบบแอปพลิเคชันเพื่อช่วยเพิ่มความทันสมัยให้กับโรงแรม อีกทั้งยังรองรับการสื่อสารในหลากหลายภาษาผ่านระบบแปลภาษาอัตโนมัติ ก็จะทำให้แขกต่างชาติสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างราบรื่น

5. ระบบบัญชีและการเงินแบบอัตโนมัติ

ระบบนี้จะช่วยจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง และสามารถเชื่อมโยงกับระบบของสรรพากรและหน่วยงานอื่น ๆ ได้โดยตรง พร้อมช่วยลดข้อผิดพลาดในการคำนวณ ลดการทุจริต และลดภาระของพนักงานบัญชี

6. ระบบการจองและการชำระเงินออนไลน์

รองรับช่องทางการจองที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม OTA หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย พร้อมระบบชำระเงินที่ปลอดภัยและสะดวก เช่น QR Code, e-Wallet และการหักบัญชีอัตโนมัติ ทำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา

7. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาธุรกิจ

ด้วยการนำ Big Data มาปรับใช้ ควบคู่กับระบบ BI (Business Intelligence) ที่ช่วยให้โรงแรมสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เช่น ระยะเวลาเข้าพัก ประเภทห้องที่ชอบ หรือบริการที่ใช้บ่อย เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปพัฒนาการบริการของโรงแรมและทำการตลาดที่แม่นยำ เพิ่มอัตราการเข้าพัก และเสริมสร้างความภักดีต่อแบรนด์

ปัญหาและอุปสรรคในการนำนวัตกรรมการบริการมาใช้ในโรงแรม

แม้ว่านวัตกรรมจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยยกระดับงานด้านบริการ แต่หลายโรงแรมยังคงเผชิญกับข้อจำกัดในการนำเทคโนโลยีมาใช้จริง เช่น

● ข้อจำกัดด้านงบประมาณสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก ทำให้ไม่สามารถลงทุนในเทคโนโลยีที่มีต้นทุนสูง เช่น ระบบ PMS หรือ AI ได้ครบทุกฟังก์ชัน การเลือกเทคโนโลยีจึงต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าอย่างรอบคอบ และอาจต้องเลือกโซลูชันที่เหมาะสมในระยะสั้นเป็นอันดับแรก

● การขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพราะการใช้นวัตกรรมการบริการของโรงแรม จำเป็นต้องมีบุคลากรที่เข้าใจระบบและสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที แต่โรงแรมจำนวนมากไม่มีทีม IT ภายใน ทำให้ต้องพึ่งพาบริษัทภายนอกเป็นหลัก ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการตอบสนองและเพิ่มค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นในระยะยาว

● ความกังวลเรื่องความซับซ้อนในการใช้งาน พนักงานโรงแรมหลายคนไม่คุ้นชินกับการใช้งานระบบใหม่ โดยเฉพาะในกรณีที่เทคโนโลยีมีอินเทอร์เฟซที่ซับซ้อนหรือไม่มีภาษาไทยรองรับ ทำให้เกิดความกังวลใจ ไม่กล้าใช้งาน และอาจส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้าโดยตรง

● การเชื่อมต่อกับระบบเดิมที่มีอยู่ โรงแรมบางแห่งใช้ระบบหลายตัวที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบบัญชี ระบบจองผ่านหน้าเว็บ หรือระบบควบคุมห้องพัก ซึ่งหากระบบใหม่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบเดิมได้ อาจเกิดข้อมูลที่ไม่ตรงกัน จนต้องทำงานซ้ำซ้อน หรือเกิดความล่าช้าในการดำเนินการ

4 ขั้นตอนในการเลือกระบบบริหารจัดการโรงแรมที่เหมาะสม

การเลือกเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เรื่องของความทันสมัย แต่ต้องเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานจริง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดภาระในระยะยาว โดยธุรกิจโรงแรมควรใช้แนวทางตามขั้นตอน ดังนี้

● การประเมินความต้องการ และรู้ถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข เริ่มต้นจากการสำรวจว่าปัญหาในโรงแรมคืออะไร เช่น ระบบจองห้องซ้ำซ้อน เช็กอินช้า หรือข้อมูลลูกค้าไม่เป็นระบบ เมื่อรู้ถึงปัญหาอย่างชัดเจน ก็จะสามารถกำหนดความต้องการ และแก้ไขได้อย่างตรงจุด

● การเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของระบบต่าง ๆ เพื่อดูว่าระบบใดมีฟีเจอร์ครบ และตอบโจทย์มากที่สุด เช่น การเชื่อมกับ OTA, ระบบบิลอัตโนมัติ หรือการแจ้งเตือนพนักงานแม่บ้าน พร้อมทั้งเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทั้งรายเดือนและรายปี เพื่อคำนวณความคุ้มค่าในการใช้งาน

● การทดลองใช้งานและการประเมินผล ระบบโรงแรมที่ดีควรมีเวอร์ชันทดลองให้ใช้งาน เพื่อให้ทีมงานได้ทดลองใช้จริงก่อนตัดสินใจ โดยควรพิจารณาจากประสบการณ์การใช้งานจริง ความง่ายในการฝึกอบรม และความเสถียรของระบบที่ใช้ในสถานการณ์จริง

● การวางแผนการฝึกอบรมและการใช้งานระยะยาว เพื่อให้พนักงานสามารถใช้งานระบบได้อย่างคล่องตัว และควรมีแผนดูแลอัปเดตระบบหรือสามารถขอคำปรึกษาจากผู้ให้บริการ เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

Kantus Hotel Tech โซลูชันระบบบริหารโรงแรมที่พัฒนาโดยคนไทยเพื่อคนไทย เป็นบริษัทที่เข้าใจความต้องการของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยอย่างแท้จริง มีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบให้กับโรงแรมชั้นนำมากกว่า 10 ปี เรานำเสนอระบบโรงแรมที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ในราคาที่เหมาะสม พร้อมให้คำปรึกษาฟรี โดยสามารถทดลองใช้งานฟรี 3 เดือน มีทีมงานคอยซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง ติดต่อเราวันนี้เพื่อยกระดับธุรกิจโรงแรมของคุณสู่มาตรฐานใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง !

ติดต่อสอบถามหรือขอรับคำปรึกษาฟรีได้ที่ เบอร์โทรศัพท์: 022-555-581 หรือ E-Mail: sales@kantushoteltech.com

ข้อมูลอ้างอิง
1.พาส่อง! นวัตกรรมการบริการโรงแรมสุดล้ำ เพื่อความก้าวหน้าสู่อนาคต. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 จาก https://www.dia.co.th/articles/hotel-innovation/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *