
เจาะลึกแนวทางการบริหารสินค้าคงคลังอย่างมืออาชีพ
ในโลกของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า โรงแรม หรือโรงงาน การบริหารสินค้าคงคลังถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะหากไม่มีระบบที่ดี อาจก่อให้เกิดปัญหาสินค้าขาด สต๊อกเกิน หรือทำให้สินค้าเน่าเสียจากการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม
ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกันว่า Inventory Management คืออะไร พร้อมแนะนำแนวทางการจัดการระบบสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ
Inventory Management คืออะไร ?
Inventory Management แปลว่า การจัดการสินค้าคงคลัง หมายถึง กระบวนการวางแผน ควบคุม และติดตามการไหลเข้าออกของสินค้าในคลัง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ สินค้าระหว่างรอผลิต หรือสินค้าสำเร็จรูป เป้าหมายหลักคือการมีสินค้าพร้อมใช้งานในเวลาที่เหมาะสม และลดต้นทุนจากการจัดเก็บหรือการสูญเสีย
สรุปง่าย ๆ ได้ว่า การบริหารสินค้าคงคลัง คือเครื่องมือควบคุมความสมดุลระหว่าง “ความต้องการของลูกค้า” กับ “ต้นทุนของธุรกิจ”
สินค้าคงคลังมีกี่ประเภท ?
การจำแนกประเภทสินค้าคงคลัง ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการได้ตรงจุด โดยเราสามารถแบ่งประเภทของสินค้าได้เป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้
● วัตถุดิบ (Raw Materials) หมายถึง สิ่งที่ใช้ในการผลิต
● สินค้าระหว่างผลิต (Work-in-Process) หมายถึง สินค้าที่อยู่ในระหว่างการผลิต
● สินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) หมายถึง สินค้าที่พร้อมจำหน่าย
● สินค้าสำหรับงานซ่อมบำรุง (MRO) หมายถึง อุปกรณ์สนับสนุนการผลิต เช่น น้ำมันเครื่อง หรือ อุปกรณ์ทำความสะอาด
หากรู้ว่าสินค้าคงคลังมีอะไรบ้าง จะช่วยให้คุณวางแผนจัดเก็บได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ระบบสินค้าคงคลังแบบเดิม VS ระบบอัตโนมัติ
ในหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก ยังคงพึ่งพาวิธีการจัดการคลังสินค้าแบบเดิม เช่น การจดข้อมูลลงในสมุด การใช้ไฟล์ Excel หรือ การนับสต๊อกด้วยแรงงานคน วิธีเหล่านี้แม้จะดูเรียบง่าย แต่มักก่อให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายเช่นกัน เช่น
● ข้อมูลไม่อัปเดตทันที ทำให้ไม่รู้จำนวนสินค้าคงเหลือที่แท้จริง
● เกิดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลซ้ำหรือผิดช่อง
● ใช้เวลาและแรงงานมากในการนับสต๊อกหรือจัดทำรายงาน
● ไม่สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการใช้สินค้าในแต่ละช่วงเวลาได้
เมื่อปัญหาเหล่านี้สะสมไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เกิดการสั่งซื้อเกิน หรือของหมดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า เช่น ห้องพักไม่มีของใช้ครบ หรือของในมินิบาร์ไม่พอเติม เป็นต้น
ข้อดีของการใช้ระบบสินค้าคงคลังแบบอัตโนมัติ
การเปลี่ยนมาใช้ระบบบริหารสินค้าคงคลังแบบอัตโนมัติ จะช่วยยกระดับการทำงานให้แม่นยำและคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจโรงแรมและบริการที่ต้องดูแลสต๊อกของใช้รายวันจำนวนมาก เช่น ผ้าเช็ดตัว ชุดของใช้ในห้องพัก อาหารแห้ง หรือของใช้สำนักงาน
ระบบอัตโนมัติสามารถช่วยคุณได้ในหลายด้าน เช่น
● ตรวจสอบสต๊อกได้แบบเรียลไทม์
เมื่อมีการเบิกจ่ายหรือเติมสินค้า ข้อมูลจะอัปเดตอัตโนมัติทันที ทำให้รู้สถานะของสินค้าตลอดเวลา ลดความเสี่ยงจากปัญหาสินค้าขาดหรือล้นสต๊อก
● แจ้งเตือนสินค้าคงเหลือต่ำกว่ากำหนด
ระบบอัตโนมัติจะช่วยให้คุณสามารถตั้งค่า Reorder Point ได้ เพื่อแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด ป้องกันไม่ให้ของสำคัญขาดสต๊อกในช่วง High Season
● วิเคราะห์ยอดใช้สินค้า และแนวโน้มการสั่งซื้อ
ระบบสามารถสร้างรายงานเพื่อดูแนวโน้มการใช้สินค้าในแต่ละเดือนหรือฤดูกาล ช่วยให้วางแผนการสั่งซื้อได้แม่นยำยิ่งขึ้น
● ลดเวลาและค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน
ไม่ต้องใช้พนักงานในการจดนับหรือจัดทำรายงานแบบแมนวล ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนและลดความผิดพลาดจากคน

เช็กลิสต์ สัญญาณเตือนว่าธุรกิจคุณอาจมีปัญหาเรื่องระบบสินค้าคงคลัง
●สินค้าหมดบ่อย ลูกค้าต้องรอ
● สินค้าเก่าเน่าเสียเพราะขายไม่ทัน
● ใช้แรงงานจำนวนมากในการนับสต๊อก
● ไม่มีข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ
หากพบ 2 ข้อขึ้นไป ธุรกิจคุณอาจถึงเวลาปรับระบบคลังสินค้าแล้ว
วิธีจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ
ใช้หลัก FIFO (เข้าก่อน-ออกก่อน) สำหรับสินค้าหมดอายุ
สำหรับสินค้าที่มีวันหมดอายุ เช่น อาหารแห้ง ชุดของใช้ในห้องพัก หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ควรจัดเรียงสินค้าให้ “ของเก่าถูกนำออกใช้ก่อน” เพื่อลดของเสียที่เกิดจากการเก็บไว้นานเกินไป
ตัวอย่าง : สินค้าชุดแชมพูขวดเล็กสำหรับห้องพัก ควรนำของลอตเก่ามาใช้ก่อนของลอตใหม่เสมอ
ตั้งจุดสั่งซื้อขั้นต่ำ (Reorder Point)
จุดสั่งซื้อขั้นต่ำ คือ การกำหนดปริมาณสินค้าที่ต่ำที่สุดที่ควรมีในสต๊อก หากต่ำกว่านี้ต้องสั่งซื้อทันที การตั้งจุดสั่งซื้อช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสทางธุรกิจ เช่น ลูกค้าเข้าพักจำนวนมากแต่ของใช้ไม่พอ เพราะไม่ได้สั่งซื้อเตรียมไว้
ตรวจนับสินค้าสม่ำเสมอด้วยระบบ Cycle Count
ไม่จำเป็นต้องนับสต๊อกทั้งหมดในครั้งเดียว แต่ใช้วิธีตรวจนับหมุนเวียนเป็นรอบ ๆ ตามหมวดหมู่ เช่น อาทิตย์นี้นับเฉพาะของในห้องครัว อาทิตย์หน้านับของในมินิบาร์
เชื่อมโยงระบบคลังกับระบบบัญชีและ POS เพื่อการทำงานที่แม่นยำและลดความซ้ำซ้อน
การบริหารสินค้าคงคลังจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อระบบคลังสามารถเชื่อมโยงกับระบบบัญชีและระบบ POS ได้อย่างอัตโนมัติ เพราะทุกการเคลื่อนไหวของสินค้า เช่น การขาย การรับเข้า หรือการเบิกจ่าย จะถูกบันทึกและอัปเดตแบบเรียลไทม์
เมื่อมีการขายสินค้าผ่านระบบ POS ระบบจะตัดสต๊อกทันทีโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำ ซึ่งช่วยลดภาระของพนักงานหน้าร้าน และลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการคีย์ข้อมูลด้วยมือ ขณะเดียวกัน ระบบบัญชีก็จะรับรู้ต้นทุนสินค้าที่ถูกขายออกไปแบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถตรวจสอบต้นทุน กำไร และจัดทำรายงานต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องรอปิดรอบหรือทำบัญชีแยก
การเชื่อมโยงทั้ง 3 ระบบเข้าด้วยกันจึงช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น บริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างแม่นยำ และลดความซ้ำซ้อนในการทำงานของแต่ละฝ่ายอย่างเป็นระบบ
การบริหารสินค้าคงคลังที่ดี = ลดความเสี่ยง เพิ่มกำไร
การวางระบบสินค้าคงคลังที่ชัดเจนและใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยลดของเสียและต้นทุน แต่ยังช่วยให้ธุรกิจพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความได้เปรียบของธุรกิจยุคใหม่
ยกระดับการจัดการสินค้าคงคลังของคุณ ด้วยระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลังจาก Kantus Hotel Tech
หากคุณคือเจ้าของโรงแรม รีสอร์ต หรือธุรกิจบริการที่ต้องการระบบคลังสินค้าที่ใช้งานง่าย แม่นยำ และดูแลโดยทีมซัพพอร์ตมืออาชีพ Kantus Hotel Tech ขอแนะนำ ระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจของคนไทยโดยเฉพาะ พร้อมให้คำปรึกษาฟรี ทดลองใช้ได้ทันที 3 เดือนเต็ม
ติดต่อสอบถามหรือขอรับคำปรึกษาฟรีได้ที่ เบอร์โทรศัพท์: 022-555-581 หรือ E-Mail: sales@kantushoteltech.com
ข้อมูลอ้างอิง
1. What is inventory management?. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 จาก https://www.techtarget.com/searcherp/definition/inventory-management
Leave a Reply